รสิก โลคอล คิทเช่น เป็นผู้คนในตำแหน่งผู้รู้จักปรุงรสเพื่อส่งต่อคุณค่าของอาหารที่หลากหลายต่างถิ่นให้คงความเป็นตัวเอง สนับสนุนผู้คนที่ดูแลวัตถุดิบเหล่านั้น สร้างประสบการณ์การทานที่หลากหลาย เพื่อให้ลูกค้าได้รับความสุขที่กลมกล่อม
แมวทะเลลองเดินขึ้นเขา
…จำได้ว่าบ่ายวันนั้น เราได้พบกับพี่หวาย เจ้าของร้านรสิก โลคอลคิทเช่น บทสนาเริ่มต้นด้วยข้อมูลของวัตถุดิบจากทะเลอันดามัน แมวกินปลาได้เรียนรู้มุมมองของพี่หวายที่มีต่อวัตถุดิบในแต่ละท้องถิ่น พี่หวายเป็นคนที่มองเห็นเสน่ห์ของวัตถุดิบและถ่ายถอดให้เรารู้สึกถึงรส ถึงกลิ่นชัดเจน ตรงไปตรงมา บทสนทนาบน 1 ใน 4 โต๊ะของร้านรสิก และจบลงที่มื้อค่ำก่อนแมวทะเลเดินทางกลับจากภูเขา …
อันดามันฟิชว่ายไปที่ รสิก แล้วกี่ชนิด?
เราไม่ได้มีโอกาสพบเจอกันอีก แต่ร้านรสิกก็สนับสนุนวัตถุดิบอาหารทะเลของเรามาตลอดจนถึงวันนี้ ปลากว่า 39 ชนิด และชาวประมงพื้นบ้านกว่า 30 ราย ได้ส่งต่อวัตถุดิบจากบ้านน้ำเค็ม จ.พังงา ถึงเชียงใหม่
เราได้รับไอเดีย คำแนะนำ และฟีคแบคที่ตรงไปตรงมามากมายจากพี่หวายในการจัดการวัตถุดิบให้ดีขึ้น
ครบ 1 ปี เต็ม เราได้มีโอกาสไปเยี่ยมร้านรสิกอีกครั้ง ร้านอาหารที่ได้รับรางวัล มิชลินไกด์ ภายใน 1 ปี ร้านที่มีคนจองเต็มแทบทุกวัน
ในวันนั้นเราแมวกินปลาทั้ง 5 คนได้มีโอกาสชิมวัตถุดิบของเราในเมนูของพี่หวาย แกงคั่วหอยโนราห์ พระเอกของเรื่อง ทุกคนเอ่ยปากออกมาว่า “อร่อยมาก อร่อยทุกอย่าง” ปัทแอบมองโต๊ะข้างๆ ที่สั่งปลาเก๋าลิงทอด และพบว่าลูกค้าพี่หวายทานหมดเกลี้ยง ปัท แพรว พู่กันประทับใจสุดๆ เพราะวัตถุดิบที่พี่ๆ ชาวทะเลออกเรือหามาใต้ความร้อนหรือพายุฝน วัตถุดิบที่เราลงแรงจัดเตรียมอย่างตั้งใจ ได้ส่งต่อตามคุณค่าของมัน
รสิกเป็นผู้คนในตำแหน่งผู้รู้จักปรุงรสเพื่อส่งต่อคุณค่าของอาหารที่หลากหลายต่างถิ่นให้คงความเป็นตัวเอง สนับสนุนผู้คนที่ดูแลวัตถุดิบเหล่านั้น สร้างประสบการณ์การทานที่หลากหลาย เพื่อให้ลูกค้าได้รับความสุขที่กลมกล่อม
ความตั้งใจทั้งหมดของเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกัน ไม่ต่างกันเท่าไรนักกับเรา ที่อยากให้คุณได้กินของดีๆไปนานๆ
….
บันทึกปิดเตาครั้งแรก…ลงวันที่ 25 เมษา 67…
เมื่อรสิกปิดเตาครั้งแรกเพื่อออกเดินทางค้นหาแรงบันดาลใจจากวัตถุดิบที่ไกลออกมากว่า 1,500 กิโลเมตร พี่ปัทที่ประทับใจอาหารที่ร้านรสิก ตั้งใจทำอาหารพื้นบ้านต้อนรับพี่หวาย ก่อนไปจิบกาแฟยามบ่ายที่ กฤษณาวารี งีบสั้นๆบนเรือแคนนูที่คลองสังเน่ห์
แดดอ่อนลงพอดีเวลาลุงนุออกมาเตรียมเรือที่หัวท่าเพื่อออกหาปลาในเช้าวันรุ่งขึ้น เรื่องราวการจับปลาด้วยวิถีชาวมอแกลนที่ออกจากปากนักปฏิบัติชำนาญการอย่างลุงนุ
การดำจับด้วยอุปกรณ์ดั้งเดิม ในบรรยากาศซ่อมลอบเตรียมอุปกรณ์ดำน้ำตรงหน้า ทำให้พี่หวายเชื่อมรอยต่อภาพร่างของวิถีชีวิตผู้คนที่ดูแลทะเลด้วยวิถีการจับปลาที่ไม่เอาเปรียบทะเลชัดเจนขึ้น “ผมพอเข้าใจแล้วพี่เติ้ล…ว่าเราใส่ใจผู้คนยังไง”
สิ้นแสงแต่ยังไม่สิ้นแรง ณ มื้อค่ำในร้านโฮมคุกกิ้งที่แรงหมุนของโลกกลมๆโยนคนรักในวัตถุดิบท้องถิ่นมาแลกเปลี่ยนรสชาติน้ำผึ้งป่าทะเล ลูกเลือด ไอเดียมากมายไหลออกมากองบนโต๊ะอาหารมื้อนั้น
หัวรุ่งของอีกวันระหว่างพี่หวายเดินอยู่ที่ตลาดสด โทรศัพท์จากเรือฝั่งแหลมสนเทียบท่า พวกเราจึงรีบเคลื่อนตัวมาที่ชายทะเล จุดจอดเรือชาวประมงพื้นบ้านบ้านน้ำเค็ม ปลาน้อยใหญ่หลายชนิดถูกลำเลียงขึ้นจากเรือพี่หวายลงลุยบนเรือเลือกปลากลับไป
บ่ายๆ เรือลุงนุก็เข้าท่าอีกลำ เจ้าต่อและหลานชายลุงนุยก จ้าวสมุทร เก๋ามัน เดินจากท่ามาให้เราที่บ้านแมวกินปลา พี่หวายบอกว่า “เนื้อปลาสองชนิดนี้พี่ชอบมากๆ” เราแอบเห็นประกายตาที่บอกถึงความลุ่มหลงในวัตถุดิบที่พี่หวายชื่นชอบมันจะมาพร้อมกับเมนู วิธีการปรุง เช่น “ผมว่าถ้าเอาเนื้อตัวนี้ไปเจอกับเกลือของพี่น่าจะโคตรดี…”
จบจากการคัดปลารอบที่ 2 ในหนึ่งวัน ก่อนจบทริปที่บ้านทับตะวัน ชุมชนมอแกลนที่ทำการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในชื่อว่า ‘มอแกลนพาเที่ยว’ บนเป้าหมายที่อยากให้คนภายนอกเห็นตัวตนและคุณค่าของการดำรงอยู่ของชาวมอแกลนที่ศรัทธาในธรรมชาติและการใช้ชีวิตโดยไม่เอาเปรียบธรรมชาติ จับพอกินพอใช้ มื้อนี้พี่หญิง ลงครัวยำสาหร่าย โวยวายผัดสัปะรด ปลาทอด น้ำพริก พร้อมของหวานที่เรียกว่า มะมุด ผลไม้ที่ออกมะม่วงหอมละมุดจบปลายด้วยกลิ่นทุเรียน
เล่นกับไฟที่พังงา!
เมื่อพี่หญิงชวนเราไปคั่วกาหยีท้ายฤดู ที่บ้านป้าตาวบนไร่ …
เตากาหยีถูกตั้งใต้ต้นมะพร้าวที่ลูกแก่จัด พระอาทิตย์ใกล้ตกทะเล การเผากาหยีครั้งนี้จึงกลายเป็นการเผากาหยีจากมือสมัครเล่นทั้งหลาย
ถึงแม้สุดท้ายพวกเราจะไม่ได้เม็ดกาหยีคั่วที่สวยงามมากนัก เหมือนกับการเดินทางครั้งแรกๆ ในชีวิตกับที่ใหม่ๆ ผู้คนใหม่ๆ แต่ระหว่างทางเปลวไฟร้อนๆ ที่ลุกโชนก็สร้างภาพและประสบการณ์และการเรียนรู้ให้เราเสมอ
ถ้าเทียบกับประสบการณ์ที่พี่หวายคลุกคลีในแวดวงอาหารความสัมพันธ์ของเราน่าจะเหมือนอาจารย์กับลูกศิษย์ แต่ถ้าพูดบนระยะเวลาการเริ่มต้นธุรกิจเล็กๆ รสิกและแมวกินปลาเป็นพี่น้องที่แก่เดือนเท่านั้น แมวกินปลาขอบคุณร้านรสิกมากๆ ที่สร้างประสบการณ์และการเรียนรู้ใหม่ๆ ให้เราเสมอมา
รอติดตามโปรเจกต์สนุกๆระหว่างรสิกกับแมวกินปลาเร็วๆนี้
รสิก โลคอล คิทเช่นเปิดจองโต๊ะเดือน พฤษภาคมแล้วนะทุกคน
จองโต๊ะผ่าน Facebook messenger : Rasik Local Kitchen - รสิก โลคอลคิทเช่น
หรือ Direct message ทาง Instagram : rasik.chaingmai
Special thanks
- pOhr พี่ทัส พ่อแม่น้องสาคู ที่พาให้เรามาเจอกัน
- พี่หญิง พี่เก๋ เครือข่ายสมัชชาพังงาแห่งความสุขผู้จัดทริปมอแกลนพาเที่ยว แห่งบ้านทับตะวัน
- ป้าตาวที่เปิดบ้านคั่วกาหยีให้เราในวันที่อากาศร้อนเกินบรรยาย
- ลุงชาย ที่แบกแคนนูมาพาเรารับลมในคลองสังเน่ห์ในวันน้ำเชี่ยว
- พี่ต่ายและคุณพ่อ ร้านมรกต โฮมคุกกิ้ง สำหรับมื้ออาหารดีๆ และวัตถุดิบท้องถิ่นที่นำมาให้เราชิม
- พี่โอ๊ต พี่ตาล ร้านกาแฟ กฤษณาวารี ที่บรรจงดริปดีๆ ให้ผ่อนคลาย
- ขอบคุณลุงป้าน้าอาชาวทะเลที่เดินทางมาด้วยกันกับเรา
- พี่เอิร์ท น้องฟ้าที่ร่วมเดินทางไปด้วยกัน
- ขอบคุณที่อ่านเรื่องราวของพวกเราจนถึงบรรทัดนี้
มิน
Writer
GB ในคราบ GM มีอย่างเดียวที่ยังไม่ได้ทำ คือ ‘จับปลา’