“แมวกินปลาไม่ได้มีจุดเริ่มต้นจากแนวคิดในการแก้ปัญหา แต่มองถึงโอกาสที่ดีและมีความเป็นไปได้ที่จะทำให้เกิดสิ่งที่ดีขึ้น
เเนวคิดหลัก คือ เราพยายามเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่าง ผู้คน สุขภาพ และท้องทะเล
เราเชื่อว่า เมื่อผู้คนดี มีคุณภาพชีวิตที่ดี สุขภาพดีจากอาหารที่ดี ปลอดภัยและมีประโยชน์ จะเกิดความตระหนักคิดและมีเเรงส่งกลับไปดูแลท้องทะเลซึ่งเป็นเเหล่งทรัพพยากรทางอาหารได้อย่างจริงใจ”
ทีมแมวกินปลาเป็น start up ที่เกิดจากการมองเห็นโอกาสระหว่างการเดินทางไปทำงานกับพี่ๆ สมาคมสมัชชาพังงาแห่งความสุข ที่เป็นกลุ่มภาคประชาชนที่รวมกันพัฒนาพังงา ให้เป็นเมืองแห่งความสุข
เราได้พูดคุยกับลูกหลานคนบ้านน้ำเค็ม ครอบครัวของพวกเขาทำประมงพื้นบ้าน จนกระทั่งปี 2547 ประสบกับเหตุการณ์สึนามิ กวาดเอาหมู่บ้านชาวประมงจมหายไปในพริบตา ญาติพี่น้องที่รอดชีวิตหลายคนหวาดกลัวและถอยห่างจากชีวิตชาวประมงไป
น้องๆ กลุ่มนี้เข้าไปเรียนในกรุงเทพฯ และเรียนจบพอดีกับ โควิด-19 ระบาด ต้องกลับมาอยู่บ้าน น้องๆบอกเราว่าเหมือนชีวิตหล่นหายไปกว่า 2 ปี ทักษะความรู้ที่ได้เรียนมาแทบหายไปหมด
จนการระบาดเริ่มคลี่คลาย เป็นจังหวะที่เราได้คุยกับน้องๆ บ้านน้ำเค็ม ทำให้พวกเราเห็นต้นทุนของน้อง ที่มองข้ามมาโดยตลอด ทั้งความอุดมสมบูรณ์ของอาหารทะเลที่ปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้คนที่บริโภค การจับปลาแบบไม่เอาเปรียบทะเลตามวิถีประมงพื้นบ้าน และวิถีของชาวมอแกลน ที่อาศัยอยู่ในชุมชมบ้านน้ำเค็ม พวกเขาใช้ภูมิปัญญาดั้งเดิม มีเครื่องมือจับสัตว์น้ำที่ไม่ทำลายทรัพยากรทางทะเล เช่น ไม่ใช้อวนลาก ไม่ใช้อวนขนาดตาเล็ก จับสัตว์ทะเลแบบเลือกจับ ใช้ลอบดักเพื่อจับสัตว์ทะเลที่พร้อมในการบริโภคเท่านั้น ลดการจับสัตว์ทะเลที่ตั้งท้องหรือขนาดเล็กเกินไป แต่พวกเขามีรายได้ไม่แน่นอนตามสภาพอากาศ
เราเห็นผลกระทบจากภาวะ Climate Change มากขึ้นเรื่อยๆ แม้เราจะอยู่ในพื้นที่ที่มีทรัพยากรทางทะเลอุดมสมบูรณ์ แต่เทียบกับในอดีต ความอุดมสมบูรณ์นี้ลดน้อยไปมาก สังเกตจากปริมาณของปลาที่หาได้ในแต่ละครั้งที่พี่ๆ ออกเรือ
สิ่งเหล่านี้เป็นจุดเริ่มต้นของ ร้านขายอาหารทะเลสด แมวกินปลาที่ “อยากให้ทุกคนได้กินของดีๆ ไปนานๆ“ ด้วยความห่วงใยในผู้คน สุขภาพ และท้องทะเล (+แมว)